Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha

‘ดอม เหตระกูล’ ปั้น Business Model ใหม่ให้โชว์รูมเป็นมากกว่าแค่พื้นที่ขาย-บริการ แต่กำลังจะสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่

จาก Biker ที่มีความหลงใหลใน Big Bike มานาน นำมาสู่การเป็นผู้นำเข้าหลักและมีบทบาทในการขยายตลาดแบรนด์ไทรอัมพ์ (Triumph) บิ๊กไบค์สัญชาติอักฤษ จนทำให้ผู้ขับขี่ชาวไทยคุ้นเคยมายาวนานถึง 11 ปี ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท บริทไบค์ จำกัด ซึ่งมีดารานักธุรกิจมากความสามารถอย่าง “คุณดอม เหตระกูล” นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ และเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตและทำให้ Triumph เป็นอีกหนึ่งแบรนด์บิ๊กไบค์ในฝันของเหล่า Biker ชาวไทยมาโดยตลอด

ผู้บุกเบิกตลาดบิ๊กไบค์สัญชาติอังกฤษในไทย 

ย้อนเส้นทางการเติบโตของ Triumph จากยอดขายในปีแรกๆ ที่บริทไบค์ทำได้ในหลักแค่ 30 กว่าคัน จนเติบโตได้ถึง 257 คัน ในปี 2014 รวมทั้งสามารถทำให้ราคาขายของแบรนด์ไทรอัมพ์ขยับจากช่วงที่นำเข้ามาทำตลาดใหม่ๆ จาก 5 แสนกว่าบาท มาอยู่ในจุดที่สูงสุดด้วยระดับราคาที่เกือบจะแตะหลัก 7 แสนบาท

จนกระทั่งบริษัทแม่มองเห็นศักยภาพของตลาดในประเทศไทย และเลือกที่จะขยายการลงทุนมาตั้งบริษัท Triumph Motorcycles (Thailand) เพื่อโฟกัสการทำตลาดในประเทศไทยให้เติบโตได้มากยิ่งขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถ Triumph เพื่อจำหน่ายและทำตลาดไปทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นฐานการผลิตหลักจากโรงงาน 3 แห่งที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และ 60% ของไทรอัมพ์ที่จำหน่ายอยู่ทั่วโลก ก็เป็นรถที่ผลิตและประกอบจากประเทศไทยนี่เอง

อีกหนึ่งอานิสงส์และถือเป็น Turning Point สำคัญ ในการเติบโตของแบรนด์ไทรอัมพ์ในประเทศไทย คือ หลังจากการตั้งบริษัทลูกที่ดูแลการทำตลาดในประเทศไทยโดยตรง ทำให้บิ๊กไบค์ไทรอัมพ์ในช่วงหลังๆ มานี้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธี RE-IMPORT มาจากบริษัทแม่ในอังกฤษ เพราะดีลเลอร์สามารถสั่งตรงจากไทรอัมพ์ ประเทศไทยได้โดยตรง ส่งผลให้โครงสร้างราคาของแบรนด์ไทรอัมพ์ขยับลงมาจากเดิมได้ถึง 20-30% โดยมีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ราว 399,000 บาท ทำให้เหล่า BIKER หรือแฟนๆ ไทรอัมพ์ สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น จนจำนวนประชากร TRIUMPH ของประเทศไทย 

ในปัจจุบันขยายตัวมาอยู่ที่กว่า 2,700 คันแล้ว รวมทั้งจำนวนดีลเลอร์ในปัจจุบันที่มีมากถึง 14 ราย เพื่อขยายการทำตลาดให้ครอบคลุมได้ทั่วทั้งประเทศ

ขณะที่คุณดอม และบริทไบค์ ขยายพื้นที่ทำตลาดให้กับแบรนด์ไทรอัมพ์ในพื้นที่ กทม. ร่วมกับดีลเลอร์รายอื่นๆ อีก 4 ราย ซึ่งขณะนี้คุณดอมมีโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ใน 2 พื้นที่คือ พระราม 9 และวิภาวดี ส่วนในต่างจังหวัดรับผิดชอบพื้นที่ในเชียงใหม่ ที่สามารถทำยอดขายรวมในพื้นที่ได้ถึงกว่า 300 คันแล้ว และมีแผนขยายโชว์รูมที่ให้บริการในเชียงใหม่ไปยังพื้นที่ใหม่ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับและให้บริการลูกค้าได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ขณะที่โชว์รูมแห่งเดิม อาจจะทำการปรับเป็นคาเฟ่ เพื่อใช้เป็นจุดนัดพบหรือแฮงก์เอ้าท์สำหรับคนรักไทรอัมพ์ในเชียงใหม่

ส่วนภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริทไบค์ในปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดทั้งปีได้รวม 660 คัน ขณะที่สิ้นปีนี้ตั้งเป้าจะทำยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ถึง 700 คัน ซึ่งยอดขายหลังจากผ่านพ้นช่วงครึ่งปีแรกมาก็สามารถทำไปได้แล้วกว่า 300 คัน โดยยอดขายของไทรอัมพ์นับเป็นรายได้หลักของบริทไบค์ ด้วยสัดส่วนกว่า 70% ส่วนที่เหลือจะมาจากรายได้ในส่วนอื่นๆ ทั้งยอดขายอุปกรณ์ตกแต่งหรือ Accessories ธุรกิจในส่วนของงานบริการต่างๆ รวมทั้งรายได้จากการจัดอีเวน์หรือกิจกรรมต่างๆ

มากกว่าแค่ Community จากนี้คือการสร้างแลนด์มาร์ก

แนวทางในการสร้างดีมานด์ให้ Triumph ที่คุณดอม ให้ความสำคัญมาตลอด 11 ปี ทั้งการลงทุนสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งแรกที่ถนนพระราม 9 เพื่อทำหน้าที่เป็น Display ให้กับแบรนด์ สร้างการรับรู้ให้กับผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาในย่านนั้น การทำตลาดทั้งในแง่ของการประชาสัมพันธ์แบรนด์ผ่านสื่อต่างๆ โดยตรง รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้าง Community ของคนที่ชื่นชอบแบรนด์ไทรอัมพ์ รวมทั้งผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่บิ๊กไบค์ต่างๆ เพื่อรวมตัวกันขับขี่ไปทำกิจกรรม หรือท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการมองเห็นและคุ้นเคยกับแบรนด์ รวมไปถึงการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงการขับขี่อย่างปลอดภัยและเคารพกฏจราจร เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ และรักษาการเติบโตของธุรกิจในลักษณะที่ยั่งยืน

บริเวณชั้น 2 จะเป็นพื้นที่สำหรับโชว์รูมพื้นที่ราวๆ 350- 370 ตารางเมตร ที่ตกแต่งตาม Corporate Identity ด้วยคอนเซ็ปต์ Triumph’s World ที่มีรถไทรอัมพ์หลากหลายรุ่นให้ได้สัมผัส

บริเวณชั้น 3 จะเป็นส่วนพื้นที่ร้านค้าสำหรับจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วๆ ไป

บริเวณชั้น 4 จะเป็นส่วนของสำนักงานออฟฟิศ

บริเวณชั้น 5 จะทำเป็นพื้นที่สำหรับร้านอาหารในรูปปแบบ Bar & Restaurant โดยคาดว่าจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นในระดับ B+ ที่สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลาย และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่อาศัยในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และผู้บริหารองค์กรต่างๆ เนื่องจากอยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำระดับประเทศหลายแห่ง

ส่วนชั้น 6 จะเปิดเป็นพื้นที่สำหรับคนที่สนใจดูแลสุขภาพและรักการออกกำลังกาย โดยจะเปิดเป็นฟิตเนส เซ็นเตอร์ ที่เน้นให้บริการในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง เช่น เปิดคอร์สสอนโยคะในรูปแบบต่างๆ เนื่องจากยังเป็นช่องว่างที่ยังไม่มีใครเปิดให้บริการในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งฐานลูกค้า Triumph เองก็เริ่มมีกลุ่มผู้หญิงอยู่ด้วยที่ประมาณ 2-3%

วางเป้าหมายให้โชว์รูมแห่งนี้กลายเป็น Landmark แห่งใหม่ของถนนวิภาวดี

เป็นพื้นที่นัดพบปะสังสรรค์ และสามารถให้บริการไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในโชว์รูม ประกอบกับมองในเรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากราคาที่ดินบนย่านวิภาวดีค่อนข้างมีราคาสูง จึงควรใช้ประโยชน์จากตึกที่สร้างขึ้นได้อย่างหลากหลายวัตถุประสงค์ มากกว่าการทำเป็นเพียงโชว์รูมเพียงอย่างเดียว ประกอบกับยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการขยายเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของไทรอัมพ์ในอนาคตได้

ที่สำคัญคือการสร้างให้มี Traffic หมุนเวียนภายในตึก หรือบริเวณย่านดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจาก พื้นที่โชว์รูมแห่งแรกในย่านพระราม 9 อยู่ในทำเลที่ค่อนข้างคึกคัก อยู่ใกล้ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง ทำให้มีคนหมุนเวียนในบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมาก ณะที่ย่านวิภาวดี แม้จะเป็นทำเลสำคัญ และเป็นทำเลที่กลุ่มเป้าหมายค่อนข้างมีกำลังซื้อที่ดี แต่ยังขาดองค์ประกอบที่จะทำให้มีคนหมุนเวียนเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น การมีแม็กเน็ตใหม่ๆ ที่หลากหลายเพิ่มเข้ามา จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยดึงให้มีคนเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น   

“ก่อนเราจะเลือกรูปแบบธุรกิจที่จะเปิดให้บริการ เราจะทำการสำรวจตลอดเส้นทางบนถนนวิภาวดีว่ายังขาดอะไรอยู่ และอะไรที่มีอยู่แล้วบ้าง เพื่อมองหาช่องว่างให้สามารถเติมเต็มคนในย่านนี้ได้ เพื่อทำให้ตึกมีความคึกคักและมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะร้านอาหารที่เป็นแบบ Full Service ซึ่งมีอยู่น้อยมาก แม้จะเป็นบริเวณที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นการบินไทย ไทยรัฐ ไทยเบฟเวอเรจ ช่อง 7 ทำให้บางครั้งต้องเดินทางเข้าเมืองหรือไปบริเวณอื่นๆ เพื่อหาร้านอาหารรับประทาน เช่นเดียวกับฟิตเนส ที่มักจะเน้นให้บริการผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ โดยธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเลือกมาให้บริการ จะใช้วิธีว่าจ้าง Outsource ที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นผู้บริหารจัดการ ทั้งในกลุ่มร้านอาหาร และในส่วนผู้ให้บริการฟิตเนส โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ประมาณช่วงปลายปีนี้”  

ตลาดโต แต่ Value ความเป็นบิ๊กไบค์ลด

เพราะคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจมอเตอร์ไซค์ไลฟ์สไตล์อย่างบิ๊กไบค์มากว่าทศวรรษ สิ่งที่คุณดอมเป็นห่วง และให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจกลุ่มนี้ในอนาคต คือ การรักษา VALUE และ PASSION ต่างๆ ของผู้ขับขี่ที่มีต่อ TRIUMPH หรือรถบิ๊กไบค์แบรนด์อื่นๆ ให้ยังคงเป็นรถในฝันและยังเป็นรถที่มีคุณค่ามากกว่าจะวัดกันในแง่ของมูลค่าเพียงอย่างเดียว

เนื่องจาก กระแสความนิยมในกลุ่มมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ประกอบกับการที่ผู้ผลิตเข้ามาทำตลาดมากขึ้น มีการออกโปรโมชั่นต่างๆ หรือการที่มีรถจากประเทศจีนเข้ามาตีตลาด หรือแม้แต่การที่บริษัทแม่ของแบรนด์ใหญ่ๆ เข้ามาทำตลาดในประเทศ ทำให้ระดับราคาลดลงจนเข้าถึงและจับต้องกันได้มากขึ้น

ซึ่งแม้ว่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตได้ดีขึ้น แต่เป็นการเติบโตที่สวนทางกับคุณภาพและความรับผิดชอบในการขับขี่ โดยเฉพาะการคำนึงถึงวินัยและความปลอดภัยในการขับขี่ที่ลดน้อยลง ทำให้ภาพของการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ไลฟ์สไตล์หรือบิ๊กไบค์ออกมาสู่สังคมบ่อยๆ จนหลายฝ่ายเกิดความกังวลใจที่จะให้คนในครอบครัวใช้รถบิ๊กไบค์ รวมไปถึงระดับราคาของรถในกลุ่มนี้ที่ค่อนข้างสูงใกล้เคียงกับรถยนต์ ทำให้บางคนมองในเรื่องของความคุ้มค่าเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม เห็นได้จากการเติบโตที่ลดลงต่อเนื่องในแต่ละปี จากที่ก่อนหน้านี้ตลาดสามารถเติบโตได้สูงถึง 10-15% ในแต่ละปี

“หากเราจะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดนี้ เราก็ต้องคิดต่างอย่างสร้างสรรค์ จะมุ่งหวังการขาย หรือการบริการหลังการขายที่ดีอย่างเดียวไม่พอ สิ่งสำคัญคือ ความสัมพันธ์ลูกค้า สร้างอาณาจักรมอเตอร์ไซค์ สร้างกิจกรรมเพื่อคนรักมอเตอร์ไซค์ให้มารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และคาดหวังว่าเราจะช่วยกันปรับภาพลักษณ์ของคนขี่มอเตอร์ไซค์ ปลูกฝังเรื่องค่านิยมของการขับขี่ปลอดภัย และมารยาทในการขับขี่ โดยเฉพาะการสร้างชุมชนหรือ community ของคนรักรถ รักการขับขี่ เพราะคนกลุ่มนี้คือผู้ใช้จริง และเป็นกำลังสำคัญในการช่วยขยายฐานแฟนพันธุ์แท้ในกลุ่มนักขับขี่ และยังเป็นการรักษาฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งเอาไว้ในระยะยาวอีกด้วย”

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทางบริทไบค์ให้ความสำคัญและทำมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว คือการสร้างกิจกรรมเพื่อรวมพลให้เหล่าคนรักไทรอัมพ์และบิ๊กไบค์ได้มีโอกาสมาพบเจอกัน และยังเป็นอีกหนึ่งขาสำคัญทางการด้านการตลาด ด้วยการทำ Creative Event เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแรงของ Community และยังเป็นอีกหนึ่งขาธุรกิจที่สำคัญของบริทไบค์ด้วย คือการจัดกิจกรรม The Distinguished Gentleman’s Ride 2018” ซึ่งนอกจากจะเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่เหล่า Biker จะมารวมตัวกันเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มผู้ชายตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ  ยังมุ่งรณรงค์ส่งเสริมการขับขี่อย่างปลอดภัยและมีมารยาทที่ดีในการขับขี่อีกด้วย

“กิจกรรมนี้ถือเป็นงานเทศกาลที่รวบรวมกิจกรรมสำหรับเหล่า Biker และครอบครัว ซึ่งมีทั้งกิจกรรมบันเทิง คอนเสิร์ต อวดโฉมรถมอเตอร์ไซค์ รวมทั้งสินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่นเสื้อผ้าของชาวไบเกอร์ ทั้งแนวม้อดและร็อกเกอร์ อุปกรณ์แอคเซสซอรี่ของแต่งรถจากแบรนด์ต่างประเทศ โดยปีนี้มีค่ายมอเตอร์ไซค์ชั้นนำจากฝั่งยุโรปอย่างไทรอัมพ์ โมโต กูซซี่ (Moto Guzzi) และ เวสป้า ตอบรับมาร่วมด้วย พร้อมขยายระยะเวลาจัดงานในปีนี้เพิ่มเป็น 4 วัน จากปีละ 1 วัน โดยเพิ่มกิจกรรมพิเศษ ม้อด &ร็อกเกอร์ เฟสติวัล” ภายใต้ความร่วมมือกับดิ เอ็มโพเรียมและ ดิ เอ็มควอเทียร์ ระหว่างวันที่ 27 – 29 ก.ย. ส่วนวันที่ 30 ก.ย. จะเป็นวันรวมพลสุภาพบุรุษนักบิด จัดคาราวานรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย และระดมทุนเพื่อสนับสนุนการวิจัยมูลนิธิมะเร็งต่อมลูกหมากนานาชาติ เพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก สุขภาพจิต รวมถึงโรคร้ายที่เกิดกับผู้ชายทั่วโลกให้กับมูลนิธิ Movember (โมเวมเบอร์)ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมระดับโลกของกลุ่มคนรักมอเตอร์ไซค์ที่จะออกสตาร์ทพร้อมกันกว่า 600 เมืองใน 95 ประเทศทั่วโลก” 

 

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Friday, 09 November 2018 18:49
พงษ์ธีระ เจียรสกุล

Author : เกาะติดข่าวสารความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ ยาง การประกันภัย มอเตอร์โชว์ นวัตกรรมยานยนต์ และทิศทางในอนาคตของวงการยานยนต์

Latest from พงษ์ธีระ เจียรสกุล

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  

Tweet Feed

Post Gallery

Zoomlion ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์งานเหมืองครบวงจร ชูการบริการหลังการขายที่เข้าใจลูกค้ายิ่งกว่าเดิม

“คุณภาพของงาน การบริการที่ดี ตอบสนองทันใจ” คือหัวใจความสำเร็จของบริษัท พรีเมี่ยม ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด

เลือกผู้รับเหมาอย่างไรให้ได้งานสำเร็จ

ESC ปิดหีบสำเร็จตามเป้า มุ่งรณรงค์ลดการเผาอ้อย ชูแนวคิด Full Integrated System เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

Zoomlion ประเทศไทยฉลองครบรอบ 9 ปี เปิดตัวศูนย์บริการสาขานครสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่!

ซีพี ติดอันดับความยั่งยืนโลก ระดับ “Top 5 %” จาก S&P Global ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ชูจุดเด่นเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

STEC ปรับกลยุทธ์ “Move To The Next Chapter” มุ่งพัฒนาต่อยอด New S-Curve เน้น Backlog แสนล้าน วางนโยบายองค์กร ตอบแทนสังคม มอบอาคารชาญวีรกูลที่ 71

Thaifoods Fresh Market โตสวนกระแส ครบ 350 สาขาตามเป้า, TFG จับมือ CooperL ตั้ง TFNG ดำเนินธุรกิจฟาร์มสุกรปู่ทวดพันธุ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 746 ล้านบาท

TTA ต่อยอดธุรกิจขนส่งทางเรือ เข้าถือหุ้น 100% "ไทแทน แทงเกอร์" รุกธุรกิจผลิตน้ำมันดิบ เข้าถือหุ้น 10.14% "แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่" Q3/66 กำไร 374.8 ล้านบาท

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM